top of page
ค้นหา

RADIESSE (เรเดียสซ์)เหมาะกับการปรับรูปหน้าหรือไม่

📋 ส่วนประกอบหลัก:

แคลเซียมไฮดรอกซีแอปาไทต์ (CaHA) 30% - อนุภาคไมโครสเฟียร์ที่มีโครงสร้างคล้ายกับแร่ธาตุในกระดูกมนุษย์

เจลน้ำเกลือพิเศษ (Carrier Gel) 70% - ช่วยในการนำพาและการฉีด

🔬 กลไกการทำงาน:

เติมเต็มทันที - เจลน้ำเกลือช่วยเติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้าทันที

กระตุ้นคอลลาเจน - CaHA กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย

ผลลัพธ์ระยะยาว - เมื่อเจลค่อยๆ สลายตัว คอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นจะช่วยให้ผิวแน่นกระชับ

💰 ราคาและความคุ้มค่า

ราคา: 29,999 บาท/กล่อง

ปริมาณ: 1.5 ml ต่อกล่อง

ครอบคลุม: 1-2 บริเวณ (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)

📊 ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ทั่วไป:

RADIESSE: ผลลัพธ์อยู่ได้ 12-18 เดือน

ฟิลเลอร์ HA ทั่วไป: ผลลัพธ์อยู่ได้ 6-9 เดือน

ความคุ้มค่าระยะยาว: แม้ราคาสูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป แต่ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 2-3 เท่า จึงมีความคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว

👩‍🎨 เหมาะกับการปรับรูปหน้าหรือไม่?

✅ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปรับรูปหน้า เพราะ:

ความหนาแน่นที่เหมาะสม - มีความหนาแน่นที่เหมาะกับการปั้นแต่งโครงสร้างใบหน้า

ความสามารถในการยกกระชับ - ให้ผลลัพธ์การยกที่ชัดเจนกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป

ความคงตัวสูง - คงรูปได้ดี ไม่เคลื่อนย้ายไปยังบริเวณอื่น

ผลลัพธ์ธรรมชาติ - เมื่อฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ความแม่นยำ - สามารถปั้นแต่งได้อย่างแม่นยำในบริเวณที่ต้องการ

🎯 บริเวณที่เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า:

โหนกแก้ม 🍎 - เพิ่มมิติและความโดดเด่น

คาง 👄 - ยืดหรือเพิ่มความชัดเจนของคาง

กราม 📐 - เพิ่มความคมชัดของเส้นกราม

ขมับ 🧠 - เติมเต็มขมับที่ตอบ

จมูก 👃 - ปรับโครงจมูกแบบไม่ผ่าตัด

ร่องแก้ม 😊 - ลดร่องแก้มลึก

👥 เหมาะกับใคร?

✅ เหมาะสำหรับ:ช่วงอายุ: 30-60 ปี (ทั้งชายและหญิง)

สภาพผิว: ผู้ที่มีริ้วรอยลึก, ผิวหย่อนคล้อยระดับกลางถึงมาก

ความต้องการ: ต้องการเพิ่มโครงสร้างใบหน้า, ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว

ประเภทใบหน้า: ใบหน้าที่ขาดมิติ, ใบหน้าที่มีโครงสร้างไม่ชัดเจน

ไลฟ์สไตล์: ผู้ที่มีเวลาจำกัด ไม่ต้องการทำทรีตเมนต์บ่อยๆ

❌ ไม่เหมาะสำหรับ:หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร 🤰

ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้รุนแรง หรือแพ้ส่วนประกอบ

ผู้ที่มีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นคีลอยด์

ผู้ที่มีโรคผิวหนัง หรือการติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด

ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด

ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบชั่วคราว ที่สามารถสลายได้ทันที

⏱️ เห็นผลเลยไหม? ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

⚡ ผลลัพธ์ทันที:เห็นผลทันทีหลังฉีด ✨ - จากการเติมเต็มของเจลน้ำเกลือ

การเปลี่ยนแปลงทันที;โครงหน้าชัดเจนขึ้น ริ้วรอยลึกจางลง

ผิวดูอวบอิ่มขึ้นรูปหน้าที่ปรับแล้วเห็นได้ชัด

📈 ผลลัพธ์ระยะยาว (การพัฒนาตามเวลา):

2-4 สัปดาห์: ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นจากคอลลาเจนที่เริ่มสร้าง

3 เดือน: ผิวหนาขึ้น 30% จากการกระตุ้นคอลลาเจน

6 เดือน: ความยืดหยุ่นเพิ่ม 40% ผิวแน่นกระชับ

9-12 เดือน: ผลลัพธ์ยังคงชัดเจน โครงหน้ายังคงรูปทรง

⌛ ความคงทนของผลลัพธ์:

ระยะเวลาโดยเฉลี่ย: 12-18 เดือน

ในบางกรณี: อาจอยู่ได้นานถึง 24 เดือน

ปัจจัยที่มีผลต่อความคงทน:อายุและสภาพผิว

ไลฟ์สไตล์ (การสูบบุหรี่, การตากแดด)

การดูแลผิวหลังการรักษา

บริเวณที่ฉีด (บริเวณที่เคลื่อนไหวมากอาจสลายเร็วกว่า)

เทคนิคของแพทย์และความลึกในการฉีด

✨ ข้อดีและข้อเสีย

🌟 ข้อดี:ผลลัพธ์ยาวนาน - อยู่ได้นาน 12-18 เดือน เทียบกับฟิลเลอร์ HA ที่อยู่ได้ 6-9 เดือน

กระตุ้นคอลลาเจน - ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

ความสามารถในการปั้นแต่ง - เหมาะกับการปรับโครงสร้างใบหน้า

ความคุ้มค่า - แม้ราคาสูงแต่ความคงทนทำให้คุ้มค่าในระยะยาว

ความปลอดภัย - ได้รับการรับรองจาก FDA และใช้มานานกว่า 15 ปี

ความเป็นธรรมชาติ - ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ

ลดความถี่ - ไม่ต้องฉีดบ่อยเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป

เหมาะกับหลายบริเวณ - ใช้ได้ทั้งใบหน้า มือ และบริเวณอื่นๆ

⚠️ ข้อเสีย:ราคาสูง - แพงกว่าฟิลเลอร์ HA ทั่วไป

อาการบวม - อาจมีอาการบวมมากกว่าและนานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป

ไม่สามารถสลาย - ไม่สามารถสลายด้วยเอนไซม์ได้ (ต่างจาก HA)

ความเสี่ยงก้อน - อาจเกิดก้อนหรือนูนถ้าฉีดไม่ถูกเทคนิค

ต้องรอผลลัพธ์เต็มที่ - ต้องใช้เวลา 2-3 เดือนเพื่อเห็นผลลัพธ์สมบูรณ์

ต้องการความเชี่ยวชาญ - ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น

ไม่เหมาะกับทุกคน - มีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีโรคบางประเภท

🚨 อันตรายหรือไม่?

RADIESSE มีความปลอดภัยสูงเมื่อฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังมีความเสี่ยงและอาการข้างเคียงที่ควรทราบ:

😌 อาการข้างเคียงทั่วไป (ชั่วคราว):

บวม 💭 - 1-7 วัน

รอยช้ำหรือรอยเขียว 🟣 - 1-10 วัน

ปวดหรือกดเจ็บ 🤕 - 1-3 วัน

รอยแดงหรือระคายเคือง 🔴 - 2-3 วัน

อาการตึงผิว 🧴 - 3-5 วัน

🚑 อาการข้างเคียงรุนแรง (พบได้น้อย):

การเกิดก้อนแข็งหรือนูนใต้ผิว - มักเกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่เหมาะสม

การอุดตันของหลอดเลือด ⚠️ - อาการปวดรุนแรง, ผิวเปลี่ยนสี (ภาวะฉุกเฉิน)

การติดเชื้อ 🦠 - แดง, ร้อน, บวม, มีหนอง

อาการแพ้รุนแรง 🚩 - ผื่น, คัน, หายใจลำบาก

ผิวเปลี่ยนสีผิดปกติหรือเนื้อตาย - ในกรณีรุนแรงที่สุด

💡 สำคัญ: ความเสี่ยงเหล่านี้ลดลงได้มากเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีด RADIESSE โดยเฉพาะ และมีอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่ำมาก (น้อยกว่า 0.1%)

📋 วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลังการฉีด

🛠️ การเตรียมตัวก่อนการรักษา:

7-10 วันก่อนการฉีด:งดยาละลายลิ่มเลือด 💊 - Aspirin, Ibuprofen, Naproxen

งดอาหารเสริมบางชนิด 🌿 - Vitamin E, Fish Oil, Ginkgo, Garlic supplements

งดทรีตเมนต์ที่รุนแรง 🔆 - เลเซอร์, ผลัดผิว, ทรีตเมนต์ที่ทำให้ผิวระคายเคือง

แจ้งประวัติการแพ้ - แจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยาหรือสารใดๆ

48-72 ชั่วโมงก่อน:

งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 🍷 - ลดความเสี่ยงการเกิดรอยช้ำ

งดผลิตภัณฑ์ที่มีกรด 🧪 - Retinol, AHA, BHA, Vitamin C เข้มข้น

ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน - ไม่ขัดผิวแรง ใช้คลีนเซอร์อ่อนๆ

เพิ่มความชุ่มชื้น - ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเตรียมผิวให้พร้อม

วันที่จะฉีด:ไม่แต่งหน้า 🚫💄 - มาคลินิกด้วยใบหน้าสะอาด

ดื่มน้ำให้เพียงพอ 💧 - อย่างน้อย 2 ลิตรก่อนการรักษา

สวมเสื้อผ้าที่สบาย 👕 - เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่รัดแน่น

มาถึงก่อนเวลานัด ⏰ - เพื่อให้มีเวลาทาครีมชาหากจำเป็น

🩹 การดูแลหลังการรักษา:

24-48 ชั่วโมงแรก (ระยะวิกฤต):

ประคบเย็น ❄️ - 10-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดบวม

งดแต่งหน้า - อย่างน้อย 24 ชั่วโมง

นอนยกศีรษะสูง 🛌 - ใช้หมอน 2 ใบเพื่อลดอาการบวม

หลีกเลี่ยงการสัมผัส - ไม่นวดหรือกดบริเวณที่ฉีด

ทานยาตามที่แพทย์สั่ง - หากมีอาการปวดหรือบวมมาก

1 สัปดาห์แรก (ระยะฟื้นตัว):

หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ☀️ - ป้องกันการระคายเคืองและการอักเสบ

ทาครีมกันแดด 🧴 - SPF 50+ ทุก 2 ชั่วโมง เมื่ออยู่กลางแจ้ง

งดออกกำลังกายหนัก 🏋️‍♀️ - เพื่อลดการไหลเวียนเลือดที่มากเกินไป

งดซาวน่า, อบไอน้ำ 🔥 - หลีกเลี่ยงความร้อนสูงทุกชนิด

งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 🚭 - ลดการอักเสบและช่วยการฟื้นตัว

2-4 สัปดาห์ (ระยะคงตัว):

งดนวดหน้าแรงๆ 👐 - นวดเบาๆ ได้หลัง 2 สัปดาห์

ดื่มน้ำมากๆ 💦 - 8-10 แก้วต่อวัน

ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ - เน้นสารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น

หลีกเลี่ยงทรีตเมนต์รุนแรง - เช่น เลเซอร์, IPL, RF อย่างน้อย 4 สัปดาห์

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว - ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์, ไฮยาลูรอนิค แอซิด, เซราไมด์

การดูแลระยะยาว:

พบแพทย์ตามนัด 👨‍⚕️ - เพื่อติดตามผลลัพธ์

ถ่ายภาพเปรียบเทียบ 📸 - เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง

วางแผนการฉีดซ้ำ 📅 - ประมาณ 12-18 เดือนหลังการฉีดครั้งแรก

ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด - ตลอดเวลาเพื่อยืดอายุผลลัพธ์

👨‍⚕️ คำแนะนำพิเศษสำหรับการปรับรูปหน้าด้วย RADIESSE

เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 🏆 - การปรับรูปหน้าต้องการความชำนาญสูง ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์กับ RADIESSE โดยเฉพาะ

ปรึกษาอย่างละเอียด 🗣️ - พูดคุยถึงผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างชัดเจน และดูภาพตัวอย่างผลงานของแพทย์

เริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป 📏 - อาจเริ่มจากปริมาณน้อยก่อน แล้วค่อยเพิ่มในครั้งถัดไป

ถ่ายภาพก่อน-หลัง 📷 - เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์

ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ 🔍 - ขอดูกล่องและฉลากเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์แท้

วางแผนระยะยาว 📆 - เนื่องจากผลลัพธ์อยู่ได้นาน ควรวางแผนการดูแลและการฉีดซ้ำในอนาคต

เทคนิคพิเศษ 💎 - สอบถามเกี่ยวกับเทคนิค MDC (Microdroplet Contouring) ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

การผสมผสานเทคนิค 🔄 - พิจารณาการใช้ RADIESSE ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เช่น โบท็อกซ์ เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์

RADIESSE เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปรับรูปหน้า ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการเพิ่มโครงสร้างและกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ไม่เพียงแค่ปรับรูปหน้าได้ทันที แต่ยังช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด 🌟

🔄 RADIESSE แตกต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร? ✨

RADIESSE มีความโดดเด่นและแตกต่างจากหัตถการอื่น ๆ ในหลายด้าน มาดูการเปรียบเทียบแบบเจาะลึกกันค่ะ 📊:

RADIESSE 💎RADIESSE ใช้วัสดุหลักคือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งทำงานโดยการเติมเต็มปริมาตรทันทีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว มีความคงทนอยู่ที่ 12-18 เดือน จุดเด่นคือสามารถปรับโครงหน้าได้ดี เช่น เติมร่องแก้มหรือปรับกรามให้ชัดเจน และให้ผลลัพธ์ระยะยาว แต่ข้อเสียคือไม่สามารถสลายได้ทันทีหากมีปัญหา และมีราคาค่อนข้างสูง 🌟

Sculptra 🌿Sculptra ใช้วัสดุ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเป็นหลัก มีความคงทนยาวนานถึง 18-24 เดือน จุดเด่นคือให้ผลระยะยาวและฟื้นฟูผิวจากภายใน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ผลลัพธ์จะไม่ปรากฏทันที ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ และไม่เหมาะสำหรับการเติมเต็มปริมาตรในทันทีเมื่อเทียบกับ RADIESSE 🍃

Juvederm 💧Juvederm เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่เติมเต็มปริมาตรด้วยความชุ่มชื้น มีความคงทน 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่น) จุดเด่นคือปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปากหรือร่องใต้ตา และสามารถสลายได้ทันทีหากมีปัญหา แต่ข้อเสียคือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า RADIESSE และต้องทำซ้ำบ่อยกว่า 💦

Restylane 🌸Restylane ก็เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) เช่นเดียวกับ Juvederm มีความคงทน 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่น) จุดเด่นคือปลอดภัยและสามารถสลายได้ทันที เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ผลลัพธ์คงทนสั้นกว่า RADIESSE และต้องทำซ้ำบ่อยเช่นกัน ความแตกต่างระหว่าง Restylane กับ Juvederm มักอยู่ที่เทคโนโลยีการผลิตและความหนืดของเนื้อเจล 🌺

Botox 💉Botox ใช้สาร Botulinum Toxin Type A ที่ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อลดริ้วรอยจากการเคลื่อนไหว เช่น รอยย่นหน้าผากหรือตีนกา มีความคงทนเพียง 3-6 เดือน จุดเด่นคือช่วยลดริ้วรอยได้ดีและฟื้นตัวเร็ว แต่ไม่ช่วยเติมเต็มปริมาตรเหมือน RADIESSE และต้องทำซ้ำบ่อย 💊

Thread Lift 🧵Thread Lift ใช้เส้นใยละลายได้ เช่น PDO หรือ PLLA เพื่อยกกระชับผิว มีความคงทน 6-12 เดือน จุดเด่นคือช่วยยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น ยกคิ้วหรือกระชับแก้ม และกระตุ้นคอลลาเจน แต่ข้อเสียคือเจ็บมา

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)อันตรายไหม

Derma Glow: โปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วย Skin Booster 💉✨ สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาพูดถึง Derma Glow ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วยการฉีดช...

 
 
 

ความคิดเห็น


ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

0626023959

bottom of page