top of page
ค้นหา

การฉีดProfhilo(โปรฟิโล)มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

🌟 ผลข้างเคียงและการดูแลตัวเองสำหรับการฉีด Profhilo (โปรฟิโล) 🌟💉 ผลข้างเคียงของการฉีด Profhilo

การฉีด Profhilo เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง แต่เช่นเดียวกับการรักษาทางการแพทย์อื่นๆ อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการเล็กน้อยและหายได้เองภายในไม่กี่วัน

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ⚠️รอยแดงและรอยช้ำ 🩹

เกิดขึ้นบริเวณที่ฉีด เนื่องจากการใช้เข็มแทงผ่านผิวหนัง มักพบในผู้ที่มีผิวบางหรือเส้นเลือดฝอยเยอะ อาการนี้มักหายไปเองภายใน 1-3 วัน

อาการบวม 💧

อาจเกิดบวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด เนื่องจากการตอบสนองของร่างกายต่อการฉีดสาร โดยเฉพาะในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก และมักลดลงเอง

อาการเจ็บหรือปวด 😣

ความรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด อาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเมื่อสัมผัส มักหายภายใน 1-2 วันรอยนูน 🔘

อาจพบรอยนูนเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นผลจากการที่สาร Profhilo ยังไม่กระจายตัวดี โดยปกติจะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย ⚠️⚠️

การติดเชื้อ 🦠พบได้น้อยมาก หากทำการรักษาในสถานที่ที่ได้มาตรฐานและมีการฆ่าเชื้ออย่างดี อาการอาจรวมถึงรอยแดงรุนแรง ปวด หรือมีหนอง

อาการแพ้ 🚨

พบได้น้อยมาก เนื่องจาก Profhilo เป็นกรดไฮยาลูโรนิกบริสุทธิ์ ไม่มีสารเติมแต่ง แต่ในบางกรณีอาจเกิดในผู้ที่มีประวัติแพ้กรดไฮยาลูโรนิก

ปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ 🩺

เช่น ผื่นแดง คัน หรือผิวไม่เรียบ พบได้น้อยมาก และมักเกิดจากเทคนิคการฉีดหรือการดูแลหลังการรักษาที่ไม่เหมาะสม

Profhilo อันตรายไหม? 🤔ปลอดภัยสูง ✅

Profhilo มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นกรดไฮยาลูโรนิกบริสุทธิ์ที่มีความเข้ากันได้กับร่างกายมนุษย์ และไม่ก่อให้เกิดการแพ้ในคนส่วนใหญ่

ไม่มีสาร BDDE 🚫

ไม่มีสารเชื่อมโยงเคมีที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์บางชนิด ผ่านการรับรอง 📋

Profhilo ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาในหลายประเทศ รวมถึงยุโรปและประเทศไทย

ความเสี่ยงต่ำ 🌈

ความเสี่ยงของผลข้างเคียงรุนแรงมีน้อยมาก หากทำการรักษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์และในคลินิกที่ได้มาตรฐาน

👩‍⚕️ การดูแลตัวเองก่อนฉีด Profhilo

การเตรียมตัวก่อนการฉีด Profhilo จะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา

7 วันก่อนการรักษา 📆

งดการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด 💊

เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน หรือยาในกลุ่มที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol 🧴

เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองผิว

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ 🍋

เช่น AHA, BHA หรือกรดซาลิไซลิก ซึ่งอาจทำให้ผิวไวต่อการระคายเคือง

งดการดื่มแอลกอฮอล์ 🍷

อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนการรักษา เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำและการบวม

48 ชั่วโมงก่อนการรักษา ⏰

งดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs 💊

เช่น ไอบูโพรเฟน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

หลีกเลี่ยงการนวดหน้า 👐

เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวก่อนการรักษา งดการขัดผิวหรือใช้สครับ 🧼

เพื่อป้องกันการระคายเคืองและการอักเสบของผิว

วันที่รับการรักษา 📅ทำความสะอาดผิวหน้า 🧴

มาด้วยใบหน้าที่สะอาด ปราศจากเครื่องสำอางหรือครีมบำรุง

แจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยา 🩺

โดยเฉพาะการแพ้กรดไฮยาลูโรนิกหรือยาชา แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว 📝

โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง หรือการตั้งครรภ์/ให้นมบุตร

ดื่มน้ำให้เพียงพอ 💧เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและพร้อมสำหรับการรักษา

🏠 การดูแลตัวเองหลังฉีด Profhilo

การดูแลตัวเองหลังการฉีดมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง

24 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา ⏱️

งดการสัมผัสบริเวณที่ฉีด 👆

เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากมือที่อาจไม่สะอาด

งดการแต่งหน้า 💄

อย่างน้อย 12 ชั่วโมง (แต่สามารถแต่งหน้าได้ทันทีหากจำเป็น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน)

งดการออกกำลังกายหนัก 🏋️‍♀️

เพื่อลดการไหลเวียนเลือดที่อาจทำให้เกิดรอยช้ำหรือบวม

งดการอบซาวน่า หรือจากุซซี่ 🧖‍♀️

หลีกเลี่ยงความร้อนที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการบวมเพิ่มประคบเย็น ❄️

หากมีอาการบวมหรือรอยแดง ให้ประคบเย็น 10-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง (ห่อผ้าบางๆ เพื่อป้องกันการสัมผัสน้ำแข็งโดยตรง)

นอนหงาย 🛌

ในคืนแรกหลังการรักษา เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด

48-72 ชั่วโมงหลังการรักษา 📆

งดการนวดหน้า 👐

อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของสาร Profhilo

งดการดื่มแอลกอฮอล์ 🍷

อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำ

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol 🧴

อย่างน้อย 72 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการระคายเคือง

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน 🧪

เช่น AHA, BHA หรือกรดต่างๆ อย่างน้อย 72 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวฟื้น1 สัปดาห์หลังการรักษา 🗓️

ทาครีมกันแดด ☀️SPF 50+ ทุกวัน และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากต้องออกแดด เพื่อป้องกันรอยดำและการระคายเคือง

ดื่มน้ำให้เพียงพอ 💧

อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกรดไฮยาลูโรนิกในการกักเก็บน้ำ

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความอ่อนโยน 🧴

เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม เพื่อป้องกันการระคายเคือง

รับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูง 🥗

เช่น ซุปกระดูก ปลา ไข่ขาว ถั่ว และผลไม้ที่มีวิตามินซี เพื่อเสริมการทำงานของ Profhilo

🚨 สัญญาณอันตรายที่ควรพบแพทย์ทันที

ถึงแม้ Profhilo จะมีความปลอดภัยสูง แต่หากพบอาการต่อไปนี้ ควรติดต่อแพทย์หรือคลินิกทันที:

อาการบวมที่รุนแรงหรือไม่หาย 🔴

โดยเฉพาะหากเป็นข้างเดียวหรือบวมมากขึ้นเรื่อยๆ

ปวดรุนแรงที่ไม่บรรเทาด้วยยาแก้ปวดทั่วไป 😖

หรือปวดมากขึ้นตามเวลา มีไข้หรือรู้สึกไม่สบาย 🤒

ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ

มีรอยแดง ร้อน หรือเจ็บมากบริเวณที่ฉีด 🔥

อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อ

มีอาการคัน ผื่น หรือลมพิษ 🧨ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการแพ้

มีก้อนแข็งที่ไม่หายไปภายใน 1 สัปดาห์ 💢หรือก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้น

💎 เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพของ Profhilo

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการฉีด Profhilo สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเพิ่มเติมดังนี้:

การนวดหน้าเบาๆ 👐

หลังจาก 48 ชั่วโมงผ่านไป เพื่อช่วยกระจายสารให้ทั่วถึง (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)

การใช้เซรั่มวิตามินซี 🍊

หลังจาก 72 ชั่วโมงผ่านไป เพื่อเสริมการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

การดื่มน้ำมากๆ 💦

กรดไฮยาลูโรนิกทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความชุ่มชื้น

การทาครีมกันแดดเป็นประจำ ☂️

ป้องกันการเสื่อมสภาพของกรดไฮยาลูโรนิกจากรังสี UV

การรักษาต่อเนื่อง 📋

ทำการรักษาครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานและชัดเจนยิ่งขึ้น

Profhilo เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว การปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองก่อนและหลังการรักษาจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ 💜💉✨

Juvederm 🧩

เน้น: เพิ่มปริมาตร แก้ริ้วรอยลึก

เหมาะกับ: ริ้วรอยลึก ต้องการปรับรูปหน้า

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 9-18 เดือน

Restylane Vital 💎

เน้น: ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ปรับเนื้อผิวเหมาะกับ: ผิวแห้ง ริ้วรอยเล็กๆ

ผลลัพธ์: ทันทีถึง 2 สัปดาห์ อยู่ได้ 6-9 เดือน

Filler ทั่วไป 🧱เน้น: เพิ่มปริมาตร ปรับรูปหน้า

เหมาะกับ: ริ้วรอยลึก ปรับโครงหน้า

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 6-18 เดือนBotox 💉เน้น: ลดริ้วรอยจากการเคลื่อนเหมาะกับ: ริ้วรอยแสดงออก ลดกราม

ผลลัพธ์: 3-7 วัน อยู่ได้ 3-6 เดือน

💡 คำแนะนำในการเลือกการรักษา

ระบุปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข 🔎

หากเป็นริ้วรอยลึกหรือต้องการปรับรูปหน้า ให้เลือก Juvederm หรือ Filler ทั่วไป

หากเป็นริ้วรอยจากการแสดงออก ให้เลือก Botox

หากต้องการความชุ่มชื้น ให้เลือก Skin Booster หรือ Restylane Vital

หากต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน ให้เลือก Profhilo หรือ Rejuran

พิจารณางบประมาณและระยะเวลา 💰⏰

หากต้องการผลลัพธ์ทันทีและงบจำกัด ให้เลือก Skin Booster

หากต้องการผลลัพธ์ยาวนาน ให้เลือก Juvederm หรือ Profhilo

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 👨‍⚕️

การรักษาด้วยการฉีดควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม

แพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

เตรียมตัวก่อนและหลังการรักษา 🛌

งดแอลกอฮอล์และยาบางชนิดก่อนฉีด เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำ

ดูแลผิวหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยค่ะ 💌✨

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)อันตรายไหม

Derma Glow: โปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วย Skin Booster 💉✨ สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาพูดถึง Derma Glow ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วยการฉีดช...

 
 
 

ความคิดเห็น


ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

0626023959

bottom of page