top of page
ค้นหา

ฉีดProfhilo(โปรฟิโล)ที่ขมับช่วยยกกระชับได้หรือไม่

Profhilo ที่ขมับ: คู่มือฉบับสมบูรณ์ 2024 - การยกกระชับใบหน้าส่วนบน 🌟

💉 การฉีด Profhilo ที่ขมับช่วยยกกระชับได้หรือไม่?

คำตอบ: ใช่! การฉีด Profhilo ที่ขมับช่วยยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✨Profhilo เป็นนวัตกรรม Bio-remodeling ที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์ทั่วไป แต่เป็นการฟื้นฟูผิวจากภายในด้วย Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูงถึง 64 มก./2 มล. ซึ่งทำงานโดย:

🧬 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน: ช่วยให้ผิวบริเวณขมับแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น

🔄 ฟื้นฟูโครงสร้างผิว 3 มิติ: เสริมความกระชับให้กับใบหน้าส่วนบน

💦 เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก: ทำให้ผิวที่บางและแห้งบริเวณขมับดูเต่งตึง

🔼 ผลการยกกระชับทางอ้อม: เมื่อผิวขมับแข็งแรงขึ้น จะช่วยยกส่วนอื่นของใบหน้า เช่น หางตาและคิ้ว

ทำไมขมับถึงสำคัญ?บริเวณขมับเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการยกกระชับใบหน้า เพราะเมื่อผิวบริเวณนี้หย่อนคล้อยหรือสูญเสียวอลลุ่ม จะทำให้ใบหน้าดูแก่และเหนื่อยล้า การฉีด Profhilo จึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ 🌿

⏰ ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล และผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

📅 โปรโตคอลการฉีดและระยะเวลาเห็นผล:

Profhilo มีโปรโตคอลการรักษาที่ชัดเจน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะที่บริเวณขมับ:

ครั้งที่ 1: การฉีดครั้งแรกเพื่อเริ่มกระบวนการฟื้นฟูผิว (เริ่มเห็นผลเล็กน้อยใน 1-2 สัปดาห์)

ครั้งที่ 2: หลังจากครั้งแรก 30 วัน เพื่อเสริมผลลัพธ์ (เห็นผลชัดเจนใน 4-6 สัปดาห์)

ครั้งที่ 3 (ถ้าจำเป็น): หลังครั้งที่ 2 อีก 30-60 วัน สำหรับเคสที่มีการหย่อนคล้อยมากหรือผิวเสียหายหนัก (ผลลัพธ์สูงสุดใน 8-12 สัปดาห์)

เทคนิคการฉีด:ใช้เทคนิค BAP (Bio Aesthetic Points) ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดจำนวนจุดฉีด (เพียง 5 จุดต่อข้าง) และเพิ่มการกระจายตัวของผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ ลดความเจ็บและความเสี่ยงจากรอยเข็ม 💉

🕒 ความคงทนของผลลัพธ์:

ผลลัพธ์เต็มที่: 2-3 เดือนหลังจากคอร์สครบ (เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินสร้างตัวเต็มที่)

ระยะเวลาคงอยู่: 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และไลฟ์สไตล์

การรักษาผลลัพธ์: แนะนำทำซ้ำทุก 6-8 เดือน เพื่อคงความกระชับและความชุ่มชื้นของผิว

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงทน:

อายุ (ผิวที่มีอายุมากอาจเห็นผลสั้นกว่า)

การสัมผัสแสงแดด (UV ทำให้ผิวเสื่อมเร็ว)

ไลฟ์สไตล์ (การสูบบุหรี่หรือความเครียดเร่งการเสื่อมของผิว)

🌺 วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด Profhilo ที่ขมับ

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Profhilo และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้อย่างมาก 🌟

🛁 ก่อนการฉีด:

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ผิวพร้อมรับการรักษาและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น:

7-10 วันก่อนทำ:

💊 งดยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดบาง เช่น Aspirin, Ibuprofen, Vitamin E, Fish Oil, Ginkgo Biloba

🧴 งดใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมรุนแรง เช่น Retinol, AHA, BHA

🩺 ปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติการแพ้ยา

24-48 ชั่วโมงก่อนทำ:

🍷 งดดื่มแอลกอฮอล์ (เพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำ)

🚬 งดสูบบุหรี่ (ลดการไหลเวียนเลือดและการฟื้นตัวของผิว)

💧 ดื่มน้ำให้เพียงพอ (2-3 ลิตร/วัน) เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น

💧 หลังการฉีด:

การดูแลหลังฉีดสำคัญมากเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและป้องกันภาวะแทรกซ้อน:

24-48 ชั่วโมงแรก:

❄️ ประคบเย็นเบาๆ หากมีอาการบวม (ไม่เกิน 10 นาทีต่อครั้ง)

🙅‍♀️ ห้ามสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของผลิตภัณฑ์

🚿 งดอาบน้ำร้อนหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก

🏋️‍♀️ งดออกกำลังกายหนัก

7 วันแรก:

☀️ หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุก 2-3 ชั่วโมง

🧖‍♀️ งดซาวน่า อบไอน้ำ หรือกิจกรรมที่ใช้ความร้อน

🧴 ใช้สกินแคร์สูตรอ่อนโยน งดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกระตุ้นผิว

14-30 วันหลังทำ:

💦 ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

🥗 ทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนและคอลลาเจน เช่น ปลา ไข่ ถั่ว

🧘‍♀️ พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด เพื่อให้ผิวฟื้นตัวดีขึ้น

⚠️ ผลข้างเคียง อันตรายหรือไม่ และเจ็บมากแค่ไหน?

📋 ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น:

Profhilo เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยได้:

ผลข้างเคียงปกติ (หายเองใน 1-7 วัน):

🔴 รอยแดงบริเวณที่ฉีด (1-2 วัน)

🟣 รอยช้ำเล็กน้อย (3-7 วัน)

🌡️ อาการตึงหรือแน่นที่ผิวบริเวณขมับ (1-3 วัน)

🩹 จุดเลือดออกเล็กน้อยจากรอยเข็ม (1-2 วัน)

ผลข้างเคียงที่ควรพบแพทย์ทันที:

🚨 อาการปวดรุนแรงผิดปกติ

🦠 สัญญาณการติดเชื้อ เช่น บวมแดงร้อน

🌡️ มีไข้หลังทำทรีตเมนต์

🧠 อาการชาหรือปวดศีรษะรุนแรง

🛡️ อันตรายหรือไม่?

ความปลอดภัย: Profhilo เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก CE Mark และ FDA ผลิตในอิตาลีด้วยมาตรฐานยุโรป และปราศจากสารเชื่อมขวาง (BDDE) จึงมีความปลอดภัยสูงและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในคนส่วนใหญ่

ความเสี่ยงเฉพาะที่ขมับ: บริเวณขมับมีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญ (เช่น Temporal Artery) จึงต้องระวังเป็นพิเศษ

ข้อควรระวัง:

👨‍⚕️ ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการฉีด Profhilo เท่านั้น

🏥 เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ผลิตภัณฑ์แท้ (ตรวจสอบฉลากและล็อตผลิตภัณฑ์)

🚫 งดทำในกรณีที่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีประวัติแพ้ Hyaluronic Acid

😖 เจ็บมากแค่ไหน?

ระดับความเจ็บ: 4-6/10 (มากกว่าบริเวณแก้มเล็กน้อย) เนื่องจากผิวบริเวณขมับบางและใกล้กระดูก

เหตุผลที่เจ็บมากขึ้น: มีเส้นประสาทรับความรู้สึกมากกว่า และผิวบางกว่าบริเวณอื่น

วิธีลดความเจ็บ:

🧊 ทายาชาก่อนทำ 20-30 นาที

❄️ ใช้เครื่องเป่าลมเย็นหรือประคบเย็นระหว่างทำ

💉 ใช้เข็มขนาดเล็ก (29G-30G) และเทคนิค BAP เพื่อลดจำนวนจุดฉีด

💨 เทคนิคการหายใจหรือการเบี่ยงเบนความสนใจ

🌟 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Profhilo ที่ขมับ

💡 ประโยชน์เฉพาะของการฉีดที่ขมับ:

ยกกระชับใบหน้าส่วนบน:

ลดการหย่อนคล้อยของหางตา

ยกคิ้วให้ดูสูงและคมขึ้น

ลดริ้วรอยตีนกาข้างตา

ฟื้นฟูผิวที่บางและแห้ง:

เพิ่มความหนาและความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณขมับ

ลดความหมองคล้ำและความเหนื่อยล้าของใบหน้า

ผลลัพธ์แบบองค์รวม:

ช่วยยกกระชับใบหน้าทั้งหมด ไม่เฉพาะแค่ขมับ

ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือโป๊ะ

เสริมการทำงานร่วมกับทรีตเมนต์อื่น:

สามารถทำควบคู่กับโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ได้ (เว้นระยะ 2 สัปดาห์)

📌 ข้อควรรู้เพิ่มเติม:

เหมาะกับใคร?: ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือมีสัญญาณของผิวหย่อนคล้อย ขาดวอลลุ่ม หรือริ้วรอยบริเวณขมับและใบหน้าส่วนบน

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ: 10,000-25,000 บาทต่อครั้ง (ขึ้นอยู่กับคลินิกและปริมาณที่ใช้)

ระยะเวลาในการทำ: 30-45 นาที รวมเวลาทายาชา

💭 คำถามที่พบบ่อย:

Profhilo ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?

Profhilo เป็น Bio-remodeling agent ที่กระจายตัวใต้ผิวเพื่อฟื้นฟู ไม่ได้เพิ่มวอลลุ่มโดยตรงเหมือนฟิลเลอร์

ทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่นได้ไหม?

ทำได้ แต่ควรเว้นระยะ 2 สัปดาห์ และปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา

ทำบ่อยแค่ไหน?

คอร์สแรก 2-3 ครั้ง (ห่างกัน 30 วัน) และทำซ้ำทุก 6-8 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์

การฉีด Profhilo ที่ขมับ เป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าส่วนบนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี Bio-remodeling ที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนหลังทำ 2 ครั้ง และคงอยู่ได้ 6-9 เดือน อย่างไรก็ตาม การทำที่ขมับต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง จึงควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น 💉

การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและยาวนาน หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด คุณจะได้ผิวที่กระชับ เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ💝

ผลลัพธ์: 3-7 วัน อยู่ได้ 3-6 เดือน

💡 คำแนะนำในการเลือกการรักษา

ระบุปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข 🔎

หากเป็นริ้วรอยลึกหรือต้องการปรับรูปหน้า ให้เลือก Juvederm หรือ Filler ทั่วไป

หากเป็นริ้วรอยจากการแสดงออก ให้เลือก Botox

หากต้องการความชุ่มชื้น ให้เลือก Skin Booster หรือ Restylane Vital

หากต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน ให้เลือก Profhilo หรือ Rejuranพิจารณางบประมาณและระยะเวลา 💰

หากต้องการผลลัพธ์ทันทีและงบจำกัด ให้เลือก Skin Booster

หากต้องการผลลัพธ์ยาวนาน ให้เลือก Juvederm หรือ Profhilo

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 👨‍⚕

การรักษาด้วยการฉีดควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม

แพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

เตรียมตัวก่อนและหลังการรักษา 🛌

งดแอลกอฮอล์และยาบางชนิดก่อนฉีด เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำ

ดูแลผิวหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยค่ะ 💌✨

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)อันตรายไหม

Derma Glow: โปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วย Skin Booster 💉✨ สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาพูดถึง Derma Glow ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วยการฉีดช...

 
 
 
RADIESSE (เรเดียสซ์)คืออะไร

💎RADIESSE (เรเดียสซ์) นวัตกรรมสารฉีดกระตุ้นผิวสุดล้ำ 🌟💉 สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ RADIESSE (เรเดียสซ์) ซึ่งเป็นหนึ่งในนว...

 
 
 

ความคิดเห็น


ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

0626023959

bottom of page