top of page
ค้นหา

ฉีดProfhilo(โปรฟิโล)ที่หน้าผากช่วยลดริ้วรอยได้หรือไม่

🌟 คู่มือครบวงจร: การฉีด Profhilo (โปรฟิโล) ที่หน้าผากเพื่อลดริ้วรอย 🌟

🌿 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน: ช่วยให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น

💧 เพิ่มความชุ่มชื้นล้ำลึก: ทำให้ผิวดูเรียบเนียน ริ้วรอยตื้นขึ้น

🧬 เทคโนโลยี NAHYCO®: ช่วยให้ HA กระจายตัวได้ดีและคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน

✨ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ: ไม่ทำให้หน้าตึงหรือแข็งเหมือนการฉีดโบท็อกซ์

🔍 ลดริ้วรอยแนวนอน: เหมาะสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการขยับหน้าผากบ่อยๆ

Profhilo จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยโดยไม่เสียการแสดงออกทางสีหน้าตามธรรมชาติ 💫

⏳ ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

📅 โปรโตคอลการรักษามาตรฐาน:

ครั้งที่ 1: การฉีดครั้งแรกเพื่อเริ่มกระบวนการฟื้นฟูผิว

ครั้งที่ 2: 30 วันหลังจากครั้งแรก เพื่อเสริมประสิทธิภาพ

ครั้งที่ 3 (ถ้าจำเป็น): 2-3 เดือนหลังครั้งที่ 2 สำหรับเคสที่ผิวหย่อนคล้อยมากหรือริ้วรอยลึก

🕒 ระยะเวลาเห็นผล:

24-48 ชั่วโมงหลังฉีด: ผิวเริ่มชุ่มชื้นและตึงกระชับเล็กน้อย

2-4 สัปดาห์: ริ้วรอยเริ่มจางลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

4-8 สัปดาห์: ผลลัพธ์ชัดเจน ผิวกระชับ ริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด

2-3 เดือน: ผลลัพธ์เต็มที่เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินถูกสร้างขึ้นสมบูรณ์

หมายเหตุ: ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองหลังฉีด 🌈

🕰️ ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

ระยะเวลาโดยเฉลี่ย: 6-9 เดือน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงทน:🧬 อายุและพันธุกรรม (ผิวของคนอายุน้อยมักคงผลได้นานกว่า)

🌞 การสัมผัสแสงแดด (แสง UV ทำลายคอลลาเจน)

💦 การดูแลผิว (การใช้มอยส์เจอไรเซอร์และกันแดดช่วยยืดผลลัพธ์)

🚬 ไลฟ์สไตล์ เช่น การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ (ลดความคงทนของผลลัพธ์)

การรักษาผลลัพธ์: แนะนำให้ฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อรักษาความกระชับและความเรียบเนียนของผิว 💎

🌿 วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด

👉 การเตรียมตัวก่อนฉีด Profhilo

เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ควรเตรียมตัวดังนี้:

7-10 วันก่อนฉีด:

🚫 งดยาละลายลิ่มเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen

🚫 งดอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามิน E, น้ำมันปลา, โสม, กระเทียม

🚫 งดผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Retinol, AHA, BHA หรือสารที่อาจระคายเคืองผิว

💊 แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาหรืออาหารเสริมที่ใช้อยู่ทั้งหมด

24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด:

🚫 งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

🚫 งดสูบบุหรี่

💧 ดื่มน้ำให้เพียงพอ (2-3 ลิตรต่อวัน) เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น

🧴 ใช้สกินแคร์สูตรอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคือง👈 การดูแลตัวเองหลังฉีด Profhilo

เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุดและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

24-48 ชั่วโมงแรก:

🧊 ประคบเย็น 10-15 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวมหรือรอยแดง

🚫 ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของผลิตภัณฑ์

🚫 งดอาบน้ำร้อน, ซาวน่า, อบไอน้ำ หรือกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อน

🚫 งดออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก

😴 นอนหงายและยกศีรษะสูงเล็กน้อย เพื่อลดอาการบวม

7-14 วันแรก:

☀️ ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน แม้จะอยู่ในร่ม และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด

🚫 งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่

🚫 งดทรีทเมนต์ที่ใช้ความร้อน เช่น เลเซอร์, RF, IPL

🧴 ใช้สกินแคร์สูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์หรือสารระคายเคือง

💧 ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Hyaluronic Acid

ระยะยาว:

🌞 หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง และใช้กันแดดสม่ำเสมอ

💦 บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ HA เพื่อเสริมผลลัพธ์

🥗 รับประทานอาหารที่มีวิตามิน C และ E เพื่อส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน

⚠️ ผลข้างเคียง ความอันตราย และระดับความเจ็บปวด

😣 ระดับความเจ็บปวด:

ระดับความเจ็บ: 3-5/10 (น้อยกว่าการฉีดในบริเวณอื่น เนื่องจากหน้าผากมีเนื้อเยื่อหนา)

ความรู้สึกขณะฉีด: เจ็บจี๊ดเล็กน้อยคล้ายมดกัด และอาจรู้สึกตึงผิวหลังฉีด 1-2 วัน

การลดความเจ็บ: แพทย์มักใช้ครีมยาชาหรือยาชาเฉพาะที่ก่อนฉีด 20-30 นาที และอาจใช้เครื่องเป่าลมเย็นขณะฉีดเพื่อเพิ่มความสบาย

🩹 ผลข้างเคียงที่อาจพบ:

ผลข้างเคียงปกติ (พบบ่อยและไม่รุนแรง):

🔴 รอยแดงบริเวณที่ฉีด (หายภายใน 24-48 ชั่วโมง)

🟣 รอยช้ำเล็กน้อย (หายภายใน 3-7 วัน)

🌡️ อาการบวมเล็กน้อย (หายภายใน 1-3 วัน)

ผลข้างเคียงที่พบไม่บ่อย:

🔵 รอยช้ำขนาดใหญ่ (หากเข็มกระทบเส้นเลือด)

🦠 การติดเชื้อ (พบน้อยมาก หากทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและปลอดเชื้อ)

🧠 ปวดศีรษะชั่วคราว (มักหายภายใน 24-48 ชั่วโมง)

ผลข้างเคียงรุนแรง (พบน้อยมาก):

🛑 อาการแพ้รุนแรง (หากแพ้ Hyaluronic Acid)

🛑 การอุดตันของหลอดเลือด (หากฉีดโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ)

💡 คำแนะนำ: หากมีอาการปวดรุนแรง บวมมาก หรือมีไข้หลังฉีด ควรรีบพบแพทย์ทันที

🛡️ ความปลอดภัยและความอันตราย:

ปลอดภัยหรือไม่?: Profhilo มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย.

อันตรายหรือไม่?: ไม่อันตรายหากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหาก:

🛑 ใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน

🛑 ทำโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

🛑 ไม่แจ้งประวัติสุขภาพหรืออาการแพ้ให้แพทย์ทราบ

⛔ ข้อห้ามในการฉีด Profhilo:

🤰 ห้ามทำในผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

🦠 ห้ามทำหากมีการติดเชื้อหรือแผลเปิดที่บริเวณหน้าผาก

🩸 ห้ามทำในผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด

🧬 ห้ามทำในผู้ที่แพ้ Hyaluronic Acid

🦠 ห้ามทำในผู้ที่มีโรคผิวหนังกำเริบ เช่น สะเก็ดเงิน หรือภูมิแพ้ผิวหนังรุนแรง

💡 สรุป: Profhilo สำหรับการลดริ้วรอยที่หน้าผาก

Profhilo เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ด้วยคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนและริ้วรอยจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 6-9 เดือน และมีผลข้างเคียงน้อยมากเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การรักษามาตรฐานประกอบด้วยการฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน และอาจต้องทำซ้ำทุก 6-12 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ✨

🌈 สรุปความแตกต่างและการเลือกใช้

Profhilo 💧เน้น: ฟื้นฟูผิวจากภายใน กระชับผิว ให้ความชุ่มชื้น

เหมาะกับ: ผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้ง ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ

ผลลัพธ์: 2-4 สัปดาห์ อยู่ได้ 6-9 เดือน

Rejuran 🧬เน้น: ซ่อมแซมผิวระดับเซลล์ ลดรอยแผลเป็น รูขุมขน

เหมาะกับ: ผิวเสียหาย รอยสิว รูขุมขนกว้าง

ผลลัพธ์: 2-4 สัปดาห์ อยู่ได้ 6-12 เดือน

Skin Booster 💦เน้น: ให้ความชุ่มชื้นทันที ปรับผิวเนียนนุ่ม

เหมาะกับ: ผิวแห้ง ต้องการผลลัพธ์เร็ว งบจำกัด

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 3-6 เดือน

Juvederm 🧩เน้น: เพิ่มปริมาตร แก้ริ้วรอยลึก

เหมาะกับ: ริ้วรอยลึก ต้องการปรับรูปหน้า

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 9-18 เดือน

Restylane Vital 💎เน้น: ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ปรับเนื้อผิวเหมาะกับ: ผิวแห้ง ริ้วรอยเล็กๆ

ผลลัพธ์: ทันทีถึง 2 สัปดาห์ อยู่ได้ 6-9 เดือน

Filler ทั่วไป 🧱เน้น: เพิ่มปริมาตร ปรับรูปหน้า

เหมาะกับ: ริ้วรอยลึก ปรับโครงหน้า

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 6-18 เดือน

Botox 💉เน้น: ลดริ้วรอยจากการเคลื่อนไหว

เหมาะกับ: ริ้วรอยแสดงออก ลดกราม

ผลลัพธ์: 3-7 วัน อยู่ได้ 3-6 เดือน💡 คำแนะนำในการเลือกการรักษา

ระบุปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข 🔎

หากเป็นริ้วรอยลึกหรือต้องการปรับรูปหน้า ให้เลือก Juvederm หรือ Filler ทั่วไป

หากเป็นริ้วรอยจากการแสดงออก ให้เลือก Botox

หากต้องการความชุ่มชื้น ให้เลือก Skin Booster หรือ Restylane Vital

หากต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน ให้เลือก Profhilo หรือ Rejuran

พิจารณางบประมาณและระยะเวลา 💰⏰

หากต้องการผลลัพธ์ทันทีและงบจำกัด ให้เลือก Skin Booster

หากต้องการผลลัพธ์ยาวนาน ให้เลือก Juvederm หรือ Profhilo

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 👨‍⚕️

การรักษาด้วยการฉีดควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม

แพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

เตรียมตัวก่อนและหลังการรักษา 🛌

งดแอลกอฮอล์และยาบางชนิดก่อนฉีด เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำ

ดูแลผิวหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยค่ะ 💌✨

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)อันตรายไหม

Derma Glow: โปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วย Skin Booster 💉✨ สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาพูดถึง Derma Glow ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วยการฉีดช...

 
 
 

ความคิดเห็น


ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

0626023959

bottom of page