top of page
ค้นหา

ฉีดProfhilo(โปรฟิโล)ที่ใต้ตาได้หรือไม่

🧬 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

🌟 ปรับสภาพผิวให้กระชับ ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์

Profhilo มีความพิเศษตรงที่สามารถกระจายตัวได้ดีใต้ผิว ทำให้เหมาะกับการฉีดในบริเวณที่บอบบางอย่างใต้ตา 👁️

🤔 ฉีด Profhilo ที่ใต้ตาได้หรือไม่?

✅ ได้แน่นอนค่ะ! การฉีด Profhilo บริเวณใต้ตาเป็นที่นิยมมาก เพราะช่วยแก้ปัญหา:

รอยคล้ำใต้ตา (Dark Circles) 🌙

ริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตา (Fine Lines) ✍️

ผิวแห้งขาดน้ำบริเวณใต้ตา 💦

ถุงใต้ตาที่ไม่รุนแรง 🎒

Profhilo จะช่วยให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน ชุ่มชื้น และสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้ดูบวมหรือแข็งเหมือนฟิลเลอร์บางชนิด 🌸

หมายเหตุ: การฉีดบริเวณใต้ตาควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะเป็นบริเวณที่บอบบางและใกล้กับอวัยวะสำคัญ 👩‍⚕️

📅 ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

🔄 โปรโตคอลมาตรฐานของ Profhilo: แนะนำให้ฉีด 2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 4 สัปดาห์ (1 เดือน) ระหว่างการฉีดแต่ละครั้ง

⏳ เริ่มเห็นผล: หลังจากการฉีดครั้งแรกประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผิวจะเริ่มชุ่มชื้นและกระชับขึ้น

✨ ผลลัพธ์เต็มที่: หลังจากการฉีดครั้งที่ 2 ประมาณ 1-2 เดือน จะเห็นผิวที่เรียบเนียน ริ้วรอยลดลง และใต้ตาดูสดใสขึ้น

📌 กรณีพิเศษ: หากปัญหาใต้ตารุนแรง (เช่น รอยคล้ำมากหรือผิวหย่อนคล้อย) แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดเพิ่มเติมหรือใช้ทรีทเมนต์อื่นร่วมด้วย

⏱️ ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

⌛ โดยเฉลี่ย ผลลัพธ์ของ Profhilo จะอยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับ:

อายุของผู้ฉีด (ผิวที่อายุมากกว่าอาจเห็นผลได้สั้นกว่า) 👵

สภาพผิวและไลฟ์สไตล์ (เช่น การดูแลผิว การสูบบุหรี่ หรือการตากแดดบ่อย) ☀️

ปริมาณที่ฉีดและเทคนิคของแพทย์ 💉

🔄 การฉีดซ้ำ: แนะนำให้ฉีดกระตุ้นทุก 6 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่อย่างต่อเนื่อง

🛡️ วิธีการดูแลตัวเองก่อนฉีด Profhilo

การเตรียมตัวก่อนฉีดจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและทำให้การฉีดมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ 🌈

📋 ก่อนฉีด (Pre-Treatment Care)

🚫 งดยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), วิตามินอี, น้ำมันปลา (Fish Oil) อย่างน้อย 7-10 วันก่อนฉีด (ควรปรึกษาแพทย์หากใช้ยาเหล่านี้เป็นประจำ)

🍷 งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำ

🌞 หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด หรือการใช้ซาวน่า/อบไอน้ำ 1-2 วันก่อนฉีด

💊 แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว การแพ้ยา หรือยาที่ใช้อยู่ รวมถึงประวัติการฉีดสารอื่นๆ ในหน้า

🤰 หลีกเลี่ยงการฉีด หากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

💦 ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและพร้อมสำหรับการฉีด

🌿 วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Profhilo

การดูแลตัวเองหลังฉีดสำคัญมากเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุดและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงค่ะ 💕

📋 หลังฉีด (Post-Treatment Care)

🧊 ประคบเย็น: หากมีอาการบวมหรือรอยแดง สามารถประคบเย็นเบาๆ บริเวณที่ฉีดได้ใน 24-48 ชั่วโมงแรก

👐 ห้ามนวดหรือกดแรงๆ บริเวณที่ฉีด: อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของผลิตภัณฑ์

🚿 งดอาบน้ำร้อน หรือซาวน่าใน 24 ชั่วโมงแรก

🏊 งดว่ายน้ำ หรือแช่น้ำเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

🧘 งดออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 24-48 ชั่วโมง

🍸 งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ 24-48 ชั่วโมง

☀️ ทาครีมกันแดด และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วง 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคือง

💄 สามารถแต่งหน้าได้: หลังจากฉีดไปแล้ว 24 ชั่วโมง

🩺 ติดตามผลกับแพทย์: หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก เจ็บรุนแรง หรือมีรอยแดงที่ไม่หาย ควรติดต่อแพทย์ทันที

⚠️ ผลข้างเคียงของการฉีด Profhilo

Profhilo ถือว่ามีความปลอดภัยสูงเพราะกรดไฮยาลูโรนิคเป็นสารที่ร่างกายผลิตได้เองตามธรรมชาติ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยได้ค่ะ 😓

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย (มักไม่รุนแรงและหายเอง)

🔴 รอยแดง บริเวณที่ฉีด: มักหายภายใน 24-48 ชั่วโมง

💧 รอยช้ำเล็กน้อย: อาจเกิดขึ้นหากเข็มโดนเส้นเลือดเล็กๆ มักหายภายใน 3-7 วัน

🌡️ อาการบวมเล็กน้อย: มักเกิดใน 24-48 ชั่วโมงแรกและค่อยๆ ลดลง

🤕 ความรู้สึกเจ็บหรือตึง: บริเวณที่ฉีด อาจรู้สึกได้ 1-2 วัน

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (ควรปรึกษาแพทย์หากเกิดขึ้น)

🦠 การติดเชื้อ: หากไม่ดูแลความสะอาดหลังฉีด (พบได้น้อยมาก)

🧬 อาการแพ้: พบได้น้อยมาก เนื่องจาก Profhilo เป็นสารที่เข้ากันได้ดีกับร่างกาย

📏 ผลลัพธ์ไม่สมดุล: หากฉีดโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ อาจทำให้ผลิตภัณฑ์กระจายไม่สม่ำเสมอ

🛑 อันตรายหรือไม่?

✅ ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้

🚨 อันตราย หาก:

ฉีดโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์หรือไม่มีความชำนาญ

ใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน

ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนและหลังฉีด

🩺 คำแนะนำ: ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบรีวิว และยืนยันว่าแพทย์มีใบอนุญาตและประสบการณ์เพียงพอ

😣 เจ็บไหม?

💉 ระดับความเจ็บ: เล็กน้อยถึงปานกลาง (ประมาณ 2-5/10) ขึ้นอยู่กับความทนทานของแต่ละคน

🧴 การลดความเจ็บ: แพทย์มักจะทาครีมชาหรือใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนฉีด โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่บอบบาง

⏱️ ระยะเวลาการฉีด: ใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีต่อบริเวณ

😌 หลังฉีด: ความรู้สึกเจ็บจะหายไปอย่างรวดเร็ว มักเหลือเพียงอาการตึงๆ เล็กน้อย

💰 ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

💸 ราคาต่อครั้งสำหรับบริเวณใต้ตา: ประมาณ 15,000 - 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้และคลินิก

📊 ค่าใช้จ่ายรวมต่อคอร์ส (2 ครั้ง): ประมาณ 30,000 - 50,000 บาท

🏥 ราคาอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่และโปรโมชั่น ควรสอบถามคลินิกโดยตรง

🌟 ข้อดีของการฉีด Profhilo ใต้ตา

👁️ ช่วยลดรอยคล้ำและริ้วรอยใต้ตา

💦 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลึกถึงชั้นใน

🧬 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

🌈 ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่บวมแข็งเหมือนฟิลเลอร์บางชนิด

⏳ ใช้เวลาน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน

🛡️ มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

📌 ข้อควรระวังเพิ่มเติม

👩‍⚕️ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสม

🏥 เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ผลิตภัณฑ์ Profhilo ของแท้เท่านั้น (สามารถตรวจสอบรหัสผลิตภัณฑ์ได้)

🤰 ไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร

🧠 ตั้งความคาดหวังให้สมเหตุสมผล เพราะผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล🌈 สรุปความแตกต่างและการเลือกใช้

Profhilo 💧เน้น: ฟื้นฟูผิวจากภายใน กระชับผิว ให้ความชุ่มชื้น

เหมาะกับ: ผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้ง ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ

ผลลัพธ์: 2-4 สัปดาห์ อยู่ได้ 6-9 เดือน

Rejuran 🧬เน้น: ซ่อมแซมผิวระดับเซลล์ ลดรอยแผลเป็น รูขุมขน

เหมาะกับ: ผิวเสียหาย รอยสิว รูขุมขนกว้าง

ผลลัพธ์: 2-4 สัปดาห์ อยู่ได้ 6-12 เดือน

Skin Booster 💦

เน้น: ให้ความชุ่มชื้นทันที ปรับผิวเนียนนุ่ม

เหมาะกับ: ผิวแห้ง ต้องการผลลัพธ์เร็ว งบจำกัด

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 3-6 เดือน

Juvederm 🧩เน้น: เพิ่มปริมาตร แก้ริ้วรอยลึก

เหมาะกับ: ริ้วรอยลึก ต้องการปรับรูปหน้า

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 9-18 เดือน

Restylane Vital 💎

เน้น: ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ปรับเนื้อผิว

เหมาะกับ: ผิวแห้ง ริ้วรอยเล็กๆ

ผลลัพธ์: ทันทีถึง 2 สัปดาห์ อยู่ได้ 6-9 เดือน

Filler ทั่วไป 🧱เน้น: เพิ่มปริมาตร ปรับรูปหน้า

เหมาะกับ: ริ้วรอยลึก ปรับโครงหน้า

ผลลัพธ์: ทันที อยู่ได้ 6-18 เดือนBotox 💉

เน้น: ลดริ้วรอยจากการเคลื่อนไหว

เหมาะกับ: ริ้วรอยแสดงออก ลดกราม

ผลลัพธ์: 3-7 วัน อยู่ได้ 3-6 เดือน

💡 คำแนะนำในการเลือกการรักษา

ระบุปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข 🔎

หากเป็นริ้วรอยลึกหรือต้องการปรับรูปหน้า ให้เลือก Juvederm หรือ Filler ทั่วไป

หากเป็นริ้วรอยจากการแสดงออก ให้เลือก Botox

หากต้องการความชุ่มชื้น ให้เลือก Skin Booster หรือ Restylane Vital

หากต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน ให้เลือก Profhilo หรือ Rejuran

พิจารณางบประมาณและระยะเวลา 💰⏰

หากต้องการผลลัพธ์ทันทีและงบจำกัด ให้เลือก Skin Booster

หากต้องการผลลัพธ์ยาวนาน ให้เลือก Juvederm หรือ Profhilo

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 👨‍⚕️การรักษาด้วยการฉีดควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม

แพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

เตรียมตัวก่อนและหลังการรักษา 🛌

งดแอลกอฮอล์และยาบางชนิดก่อนฉีด เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำ

ดูแลผิวหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยค่ะ 💌✨

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)อันตรายไหม

Derma Glow: โปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วย Skin Booster 💉✨ สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาพูดถึง Derma Glow ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วยการฉีดช...

 
 
 

ความคิดเห็น


ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

0626023959

bottom of page