ร้อยไหมสลายได้เองไหม

ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมสลายได้เองหรือไม่?

ใช่ ไหมส่วนใหญ่ที่ใช้ในการร้อยไหมในปัจจุบันเป็นไหมที่สามารถสลายได้เองในร่างกาย โดยจะค่อยๆ ถูกดูดซึมและสลายตัวไปตามเวลา ซึ่งแตกต่างจากไหมแบบดั้งเดิมที่ไม่สลายตัวและอยู่ในร่างกายอย่างถาวร

ประเภทของไหมที่สลายได้เอง

1. ไหม PDO (Polydioxanone)

ระยะเวลาการสลายตัว: 6-8 เดือน

คุณสมบัติ: เป็นไหมที่นิยมใช้มากที่สุด ทำจากวัสดุเดียวกับไหมเย็บแผลทางการแพทย์

ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยไม่มาก หรือต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์: ให้ผลการยกกระชับที่ดูเป็นธรรมชาติ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระดับปานกลาง

2. ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid)

ระยะเวลาการสลายตัว: 12-18 เดือน

คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงมากกว่า PDO กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากกว่า

ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยปานกลางถึงมาก

ผลลัพธ์: ให้ผลการยกกระชับที่ชัดเจนกว่า PDO และผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า

3. ไหม PCL (Polycaprolactone)

ระยะเวลาการสลายตัว: 18-24 เดือน

คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงสูง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากที่สุด

ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยมาก หรือผิวหย่อนคล้อยมาก

ผลลัพธ์: ให้ผลการยกกระชับที่ชัดเจนและอยู่ได้นานที่สุด

กลไกการทำงานของไหมที่สลายได้เองระยะแรก (1-2 สัปดาห์)

ไหมทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพยุงผิวในทันที

เกิดการยกกระชับผิวเบื้องต้นจากแรงตึงของไหม

ระยะกลาง (1-3 เดือน)

ร่างกายเริ่มสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนรอบๆ ไหม

เกิดกระบวนการ "Fibrosis" ซึ่งเป็นการสร้างเนื้อเยื่อพังผืดรอบไหม

ผลการยกกระชับเริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ระยะยาว (4-24 เดือน)

ไหมเริ่มสลายตัวทีละน้อย

คอลลาเจนและเนื้อเยื่อพังผืดที่สร้างขึ้นจะทำหน้าที่แทนไหม

ผลการยกกระชับยังคงอยู่แม้ไหมจะสลายไปแล้วหลังไหมสลายตัวหมด

ไม่มีไหมหลงเหลืออยู่ในร่างกาย

ผลลัพธ์ยังคงอยู่ได้อีก 6-12 เดือนหลังจากไหมสลายตัวหมด

ผลลัพธ์รวมอาจอยู่ได้ถึง 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม

ข้อดีของไหมที่สลายได้เอง

ความปลอดภัยสูง

ไม่มีวัสดุแปลกปลอมตกค้างในร่างกายในระยะยาว

ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือการเกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ

ผลลัพธ์ที่ได้เป็นธรรมชาติมากกว่า

ผิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น

ฟื้นตัวเร็ว

ใช้เวลาพักฟื้นน้อย สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว

อาการบวมและรอยช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า

สามารถทำซ้ำได้ เมื่อผลลัพธ์เริ่มจางลง สามารถทำซ้ำได้โดยไม่มีปัญหา

ไม่มีการสะสมของวัสดุในร่างกาย

การดูแลตัวเองก่อนร้อยไหม

2 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ

งดการใช้ยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน

อาหารเสริม เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, แปะก๊วย, โสม, กระเทียมสกัด

ยาละลายลิ่มเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)

งดการทำทรีตเมนต์ใบหน้า

เลเซอร์ทุกชนิด

การขัดผิว (Chemical Peel)

การฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์

การนวดหน้าแบบกดลึก

ปรับพฤติกรรม งดการสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์

ดื่มน้ำให้เพียงพอ (8-10 แก้วต่อวัน)

รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและโปรตีนสูง

1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ

งดการดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด

แอลกอฮอล์ทำให้เลือดบางลง เพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำ

ลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน

เพิ่มการบำรุงผิว

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดแรงๆ

24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ

ทำความสะอาดใบหน้าอย่างละเอียด

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอ่อนโยน

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด (AHA, BHA)

พักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง

ลดความเครียด งดการแต่งหน้า

มาคลินิกหรือโรงพยาบาลด้วยใบหน้าที่สะอาด ไม่มีเครื่องสำอาง

โรคประจำตัวทุกชนิด

ยาที่รับประทานเป็นประจำ ประวัติการแพ้ยาหรือสารต่างๆ

ประวัติการทำหัตถการบนใบหน้า

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม

24 ชั่วโมงแรก

ประคบเย็น

ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบเบาๆ 15-20 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง

ห้ามวางน้ำแข็งโดยตรงบนผิวหนัง

ประคบเย็นช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ

นอนหงายและยกศีรษะสูง

ใช้หมอน 2-3 ใบรองศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจ

ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ

หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคงที่กดทับบริเวณที่ร้อยไหม

งดการสัมผัสใบหน้า

ห้ามกดหรือนวดบริเวณที่ร้อยไหมโดยเด็ดขาด

ล้างหน้าเบาๆ หลีกเลี่ยงการถูแรงๆ

ใช้น้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้องในการล้างหน้า ห้ามใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน

งดการแสดงออกทางสีหน้าที่มากเกินไป

ลดการยิ้มกว้าง หัวเราะดัง หรือแสดงสีหน้าที่ต้องเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้ามาก

การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้ามากเกินไปอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่

รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง

ยาแก้ปวด (ตามที่แพทย์สั่ง)

ยาปฏิชีวนะ (หากมีการสั่งจ่าย)

ยาลดการอักเสบ (ตามที่แพทย์สั่ง)

วันที่ 2-7

รับประทานอาหารอ่อน

เลือกอาหารที่เคี้ยวง่าย เช่น โจ๊ก ซุป พาสต้าหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องอ้าปากกว้างหรือเคี้ยวนาน เช่น แอปเปิ้ล เนื้อเหนียว

หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เค็ม ที่อาจทำให้เกิดการอักเสบ

งดการแต่งหน้า งดใช้เครื่องสำอางทุกชนิดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง

เมื่อเริ่มแต่งหน้า ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปราศจากสารระคายเคือง

ทาและลบเครื่องสำอางอย่างเบามือ

ดื่มน้ำมากๆ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10แก้วต่อวันน้ำช่วยในการขับสารพิษและลดอาการบวม

หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวใบหน้ามากเกินไป

พูดน้อยลง หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว

หลีกเลี่ยงการหาว การยิ้มกว้าง หรือการแสดงออกทางสีหน้าที่รุนแรง

สัปดาห์ที่ 1-2

งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก งดการออกกำลังกายหนัก งดการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก

งดการวิ่ง กระโดด หรือกิจกรรมที่มีแรงสั่นสะเทือน

หลีกเลี่ยงความร้อน

งดการอบซาวน่า งดการอบไอน้ำ

หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด

ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

งดการนวดหน้า งดการนวดหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม

หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องนวดหน้าหรืออุปกรณ์กระตุ้นผิว

หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ต้องนวดหรือกดลึก

ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยน

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของกรด

เช็ดหน้าเบาๆ ไม่ถูแรง

หลีกเลี่ยงการใช้แปรงล้างหน้าหรืออุปกรณ์ขัดผิว

สัปดาห์ที่ 2-4

ค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมปกติ

เริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องก้มหัวนานๆ

เริ่มทำกิจกรรมทั่วไปได้ตามปกติ

เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้

สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี

สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid

ยังควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดแรงๆ เช่น AHA, BHA หรือ Retinol

พบแพทย์ตามนัด

ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจติดตามผล

แจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ

อาการผิดปกติที่ควรพบแพทย์ทันที อาการบวมที่เพิ่มขึ้นหลังจาก 3 วัน

อาการบวมควรลดลงหลังวันที่ 3 ไม่ใช่เพิ่มขึ้น

อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ อาการเจ็บปวดรุนแรง

ความเจ็บปวดที่มากกว่าความรู้สึกไม่สบายทั่วไป

ความเจ็บปวดที่ไม่บรรเทาด้วยยาแก้ปวดทั่วไป

ผิวหนังเปลี่ยนสี ผิวหนังเป็นสีขาวซีด

ผิวหนังเป็นสีม่วงคล้ำผิดปกติ ไหมทะลุผิวหนัง

สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ว่ามีไหมโผล่ออกมาจากผิวหนัง

มีไข้หรือหนองไหล

อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ

ต้องพบแพทย์ทันที

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ไหมสลายตัวหมดแล้ว ผลลัพธ์จะหายไปทันทีหรือไม่?

ไม่ใช่ ผลลัพธ์จะไม่หายไปทันทีที่ไหมสลายตัว เนื่องจากไหมได้กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อพังผืดรอบๆ บริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งจะทำหน้าที่แทนไหมในการยกกระชับผิว ผลลัพธ์มักจะคงอยู่ได้อีก 6-12 เดือนหลังจากไหมสลายตัวหมด

2. จะทราบได้อย่างไรว่าไหมสลายตัวหมดแล้ว?

คุณจะไม่รู้สึกถึงการสลายตัวของไหม เนื่องจากเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ไม่มีอาการใดๆ แสดงให้เห็นว่าไหมกำลังสลายตัวหรือสลายตัวหมดแล้ว แพทย์อาจประเมินได้จากระยะเวลาที่ผ่านไปและการตรวจร่างกาย

3. หลังร้อยไหมแล้วจะทำทรีตเมนต์อื่นได้เมื่อไหร่?

เลเซอร์: ควรรอประมาณ 2-4 สัปดาห์

โบท็อกซ์: ควรรอประมาณ 2 สัปดาห์

ฟิลเลอร์: ควรรอประมาณ 2-4 สัปดาห์

ทรีตเมนต์กระชับผิวด้วยความร้อน: ควรรอประมาณ 4-6 สัปดาห์

4. ทำร้อยไหมแล้วจะทำซ้ำได้เมื่อไหร่?

โดยทั่วไป สามารถทำซ้ำได้หลังจากไหมสลายตัวหมดแล้ว หรือประมาณ 8-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ แต่หากต้องการเพิ่มไหมในบริเวณอื่นที่ไม่ซ้ำกับบริเวณเดิม อาจทำได้เร็วกว่านั้น

5. มีวิธีใดที่จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น?

ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

ใช้ครีมกันแดดทุกวัน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินซีและโปรตีนสูง

พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด

สรุป

การร้อยไหมในปัจจุบันใช้ไหมที่สลายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีข้อดีคือความปลอดภัยสูง ไม่มีสิ่งตกค้างในร่างกาย และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ไหมจะค่อยๆ สลายตัวในระยะเวลา 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม แต่ผลลัพธ์จะยังคงอยู่ได้นานกว่านั้น การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำหัตถการมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย