top of page
ค้นหา

เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

Derma Glow Skin Booster: นวัตกรรมเพื่อผิวสวยสมบูรณ์แบบ 💖

🌟 Derma Glow คืออะไร?

Derma Glow คือโปรแกรมการดูแลผิวหน้าระดับพรีเมียมด้วยการฉีดชนิด Skin Booster 💉 ที่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อส่งมอบสารอาหารและสารบำรุงประสิทธิภาพสูงเข้าสู่ชั้นผิวที่ลึกกว่า (ชั้น Dermis) โดยตรง ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง 🌿 แตกต่างจากการบำรุงด้วยครีมทั่วไปที่ทำได้เพียงซึมซาบที่ผิวชั้นนอก (Epidermis) เท่านั้น 🧴

โปรแกรมนี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุดและให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนยาวนาน ด้วยส่วนผสมที่เข้มข้นและเทคนิคการฉีดที่ออกแบบมาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อยกระดับสภาพผิวให้ดีขึ้นในทุกมิติ ✨

⏳ ฉีด Derma Glow กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

ผลลัพธ์ของ Derma Glow สามารถเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบและยาวนาน แนะนำให้ทำตามคอร์สที่แพทย์ออกแบบไว้ ดังนี้:

📅 ตารางแสดงผลลัพธ์ตามจำนวนครั้งที่ฉีด:

จำนวนครั้ง ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน

ระยะเวลาที่แนะนำครั้งที่ 1เห็นผลทันที! ผิวเปล่งประกาย ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เด้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 💧

เริ่มต้นการรักษา

ครั้งที่ 2ริ้วรอยตื้นเริ่มจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ ความหมองคล้ำลดลง 🌟

1 เดือนหลังครั้งแรก

ครั้งที่ 3ริ้วรอยลึกจางลงอย่างชัดเจน โครงสร้างผิวแข็งแรง ผิวกระชับ เต่งตึง เปล่งปลั่ง 💖

1 เดือนหลังครั้งที่ 2

การรักษาต่อเนื่อง

รักษาผลลัพธ์ที่ดีให้ยาวนาน ผิวแข็งแรงสมบูรณ์ ชะลอความเสื่อมของผิว 🔄

ทุก 6-8 เดือน

หมายเหตุ: ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปการทำครบคอร์ส 3 ครั้งจะช่วยให้ผิวดีขึ้นอย่างชัดเจนและยาวนานถึง 6-8 เดือนต่อครั้ง ✅

👩‍🦰 Derma Glow เหมาะกับใครบ้าง?

Derma Glow ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผิวหลากหลายประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและยาวนาน โดยไม่ต้องพึ่งพาการบำรุงผิวแบบรายวันด้วยผลิตภัณฑ์หลายชนิด 🌸

✅ เหมาะสำหรับ:

ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก 👵

ริ้วรอยตื้น ริ้วรอยลึก รอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และรอบปาก

ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ 🏜️

ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ดูหมองคล้ำ ไม่สดใส ผิวลอกเป็นขุย

ผิวบอบบางและแพ้ง่าย 🌷

ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน ลดการระคายเคือง

ผิวมีรูขุมขนกว้าง 🔍

ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ดูละเอียด

ผิวหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ 🌓

ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กระจ่างใส ลดรอยด่างดำ

ผิวเสียจากแสงแดดและมลภาวะ ☀️

ฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากรังสียูวีและมลภาวะในชีวิตประจำวันผู้ที่ต้องการป้องกันความเสื่อมของผิว 🛡️

ชะลอริ้วรอยและความหย่อนคล้อยในอนาคต

ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและยาวนาน ⚡

เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลผิวทุกวัน หรือต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน

❌ ไม่เหมาะสำหรับ:

ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร 🤰

เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการใดๆ ในช่วงนี้

ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้รุนแรงหรือแพ้ส่วนผสมใน Skin Booster 🤧

ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบส่วนผสมก่อนทำ

ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะทำการรักษา 🦠

ต้องรักษาการติดเชื้อให้หายก่อน

ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นแผลเป็นคีลอยด์ 🩹

อาจมีความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นหลังการฉีด

คำแนะนำ: ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทำ Derma Glow เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมของการรักษา 👩‍⚕️

🌈 Derma Glow ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง?

Derma Glow ไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงผิว แต่ยังแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุมและล้ำลึก ด้วยการส่งมอบสารบำรุงที่มีความเข้มข้นสูงถึง 95-99% เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง 💉

1. 💦 เพิ่มความชุ่มชื้นล้ำลึก

ประสิทธิภาพ: เพิ่มความชุ่มชื้นได้ถึง 150-200% จากภายในสู่ภายนอก

ผลลัพธ์: ผิวอิ่มน้ำ เด้ง ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี

แก้ไขปัญหา: ผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ขาดความยืดหยุ่น

2. 🕸️ ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก

ประสิทธิภาพ: ลดริ้วรอยได้ถึง 60-80% ภายใน 2-4 สัปดาห์

ผลลัพธ์: ผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยตื้นและลึกจางลง

แก้ไขปัญหา: ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องปาก

3. 🔍 กระชับรูขุมขน

ประสิทธิภาพ: ลดขนาดรูขุมขนได้ถึง 40-50%

ผลลัพธ์: ผิวเรียบเนียน ละเอียด สัมผัสนุ่มละมุน

แก้ไขปัญหา: รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน

4. ✨ เพิ่มความกระจ่างใส

ประสิทธิภาพ: เพิ่มความกระจ่างใสถึง 50-70%

ผลลัพธ์: ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ ผิวเปล่งประกาย

แก้ไขปัญหา: ผิวหมองคล้ำ รอยด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ5. 🧬 ฟื้นฟูโครงสร้างผิว

ประสิทธิภาพ: เพิ่มการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้ถึง 200-300%

ผลลัพธ์: เสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง ผิวเต่งตึง

แก้ไขปัญหา: ผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น

6. 🛡️ ปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก

ประสิทธิภาพ: ฟื้นฟูผิวที่เสียหายได้ถึง 80%

ผลลัพธ์: เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง

แก้ไขปัญหา: ผิวเสียจากแสงแดด มลภาวะ และความเครียด

7. 🌱 ลดการอักเสบและการระคายเคือง

ประสิทธิภาพ: ลดการอักเสบและเสริมความแข็งแรงให้ผิวบอบบาง

ผลลัพธ์: ผิวสงบ ระคายเคืองน้อยลง

แก้ไขปัญหา: ผิวแพ้ง่าย ผิวแดงจากมลภาวะ

💊 ส่วนผสมสำคัญใน Derma Glow

Derma Glow ประกอบด้วยส่วนผสมที่มีความเข้มข้นสูง ออกแบบมาเพื่อบำรุงและฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก โดยส่วนผสมหลัก ได้แก่:

กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้มข้น 💧

อุ้มน้ำได้มากกว่า 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง

เติมเต็มริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นล้ำลึก ผิวอิ่มน้ำ

เปปไทด์และโกรทแฟคเตอร์ (Peptides & Growth Factors) 🧬

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ผิวเต่งตึง

วิตามินและแร่ธาตุ (Vitamins & Minerals) 🍊

วิตามิน A, B, C, E และแร่ธาตุสำคัญ

ต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องและซ่อมแซมผิวอะมิโนแอซิด (Amino Acids) 🌱เสริมสร้างโปรตีนสำคัญในผิว

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) 🍇

ปกป้องผิวจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ (Free Radicals)

ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว

หมายเหตุ: ส่วนผสมอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสูตรเฉพาะของแต่ละคลินิกหรือตามสภาพผิวของผู้รับบริการ 🧪

📋 ขั้นตอนการทำ Derma Glow

การทำ Derma Glow เป็นหัตถการที่ปลอดภัย ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โดยมีขั้นตอนที่ได้มาตรฐาน ดังนี้:

🔄 5 ขั้นตอนหลักในการทำ Derma Glow:

การปรึกษาและประเมินสภาพผิว 👩‍⚕️

แพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข

ออกแบบสูตร Skin Booster ให้เหมาะกับผิวของแต่ละบุคคล

การทำความสะอาดผิว 🧼

ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างละเอียดเพื่อปลอดเชื้อ

เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการรักษา

การวางยาชาเฉพาะที่ 💊

ทายาชาเพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด

รอ 15-30 นาทีให้ยาชาออกฤทธิ์

การฉีด Derma Glow Skin Booster 💉

แพทย์ฉีดสารบำรุงเข้าสู่ชั้นผิว Dermis ด้วยเทคนิคพิเศษ

ใช้เข็มขนาดเล็กมากเพื่อลดรอยและความเจ็บปวด

การดูแลหลังทำ 🧖‍♀️

ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมหรือรอยแดง

ให้คำแนะนำในการดูแลผิวหลังการรักษา

⏱️ ระยะเวลาในการทำและการฟื้นตัว

ระยะเวลาในการทำ: 30-45 นาที (รวมการวางยาชา) ⌛

ระยะเวลาฟื้นตัว: 1-3 วัน (อาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อย) 📆

อาการที่อาจพบ: รอยแดง รอยจ้ำเล็กน้อย หรือบวมเล็กน้อย (หายได้เองภายใน 1-3 วัน) 🩹

การกลับสู่กิจวัตรประจำวัน: สามารถกลับไปทำงานได้ทันทีหลังทำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือความร้อนใน 24 ชั่วโมงแรก 🏃‍♀️

🔄 การดูแลผิวหลังทำ Derma Glow

เพื่อให้ผลลัพธ์ของ Derma Glow อยู่ได้ยาวนานและผิวฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้:

👍 สิ่งที่ควรทำ:

ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมหรือรอยแดง ❄️

ทาครีมบำรุงที่แพทย์แนะนำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น 🧴

ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวันเพื่อปกป้องผิว ☀️

ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว 💧

พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดี 😴

👎 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:

แสงแดดจัดหรือความร้อน (เช่น ซาวน่า) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ 🌞

การนวดหน้าหรือกดผิวแรงๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ 👐

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด (เช่น AHA, BHA) เป็นเวลา สัปดาห์ 🧪

การสครับหรือผลัดเซลล์ผิวเป็นเวลา 1 สัปดาห์ 🧖‍♀️

การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง 🚭

💰 ความคุ้มค่าของ Derma Glow

เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ครีมบำรุงผิวทั่วไป Derma Glow ให้ความคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว เนื่องจากผลลัพธ์ที่ยาวนานและลดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิด:

ครีมบำรุงทั่วไป:

ต้องใช้ทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง

ผลลัพธ์จำกัดและต้องใช้ต่อเนื่อง

ค่าใช้จ่ายสะสม 10,000-30,000 บาทต่อปี (รวมมอยส์เจอไรเซอร์ เซรั่ม ครีมกันแดด ฯลฯ) 💸

Derma Glow:

ทำเพียง 3 ครั้งในช่วงแรก และรักษาผลลัพธ์ด้วยการทำซ้ำทุก 6-8 เดือน

ผลลัพธ์ชัดเจน ยาวนาน ลดการใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 15,000-25,000 บาทต่อปี (ขึ้นอยู่กับคลินิกและสูตรที่ใช้) 💎

ข้อสรุป: Derma Glow ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพราะไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัว และให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าการบำรุงผิวแบบดั้งเดิม 🌟

🌟 สรุปจุดเด่นของ Derma Glow

ผลลัพธ์เห็นชัดตั้งแต่ครั้งแรก ✨

ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เด้งทันทีหลังทำผลลัพธ์ยาวนาน 6-8 เดือนต่อครั้ง ⏳

ไม่ต้องบำรุงทุกวัน ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน

แก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย 🔄

ริ้วรอย รูขุมขน ความหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน

ลดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิด 🧴

ไม่ต้องใช้ครีมหลายตัว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปลอดภัย 👩‍⚕️

มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์

ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตได้ทันที 🏃‍♀️

ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ

ฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง 🌱

บำรุงลึกถึงชั้น Dermis ไม่ใช่แค่ผิวชั้นนอก

คุ้มค่าในระยะยาว 💰

ลงทุนครั้งเดียว ผลลัพธ์ยาวนาน

🔷 ข้อดีของ Derma Glow เมื่อเทียบกับ Mesotherapy:

💦 ความชุ่มชื้นยาวนานกว่า: HA ใน Skin Booster ช่วยกักเก็บน้ำในผิวได้ดีกว่าวิตามินทั่วไป ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้นานขึ้น

⏳ ผลลัพธ์คงอยู่นานกว่า: ผลของ Derma Glow อยู่ได้ 4-6 เดือน เทียบกับ Mesotherapy ที่อยู่ได้เพียง 1-2 เดือน

📅 จำนวนครั้งน้อยกว่า: คอร์สการรักษามักใช้เพียง 3 ครั้ง ในขณะที่ Mesotherapy อาจต้องทำ 4-6 ครั้ง

🌿 ความเสี่ยงจากการแพ้น้อยกว่า: เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้ HA ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตได้เอง โอกาสแพ้จึงน้อยกว่าค็อกเทลวิตามินที่มีส่วนผสมหลากหลาย

🧬 กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่า: HA ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดีกว่าในระยะยาว

🔷 ข้อดีของ Derma Glow เมื่อเทียบกับ Mesofat:

🧖‍♀️ ระยะพักฟื้นสั้นกว่า: มีอาการบวมแดงน้อยกว่าและหายเร็วกว่า Mesofat

😌 ความเจ็บปวดน้อยกว่า: เนื่องจากฉีดตื้นกว่าและไม่รู้สึกแสบเหมือนสารสลายไขมัน

🌱 ไม่ทำลายเซลล์: เป็นการเติมสารให้ผิว ไม่ใช่การทำลายเซลล์ไขมัน จึงไม่มีความเสี่ยงเรื่องผิวไม่เรียบ

💆‍♀️ เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวโดยรวม: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเปล่งปลั่ง ซึ่ง Mesofat

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)อันตรายไหม

Derma Glow: โปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วย Skin Booster 💉✨ สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาพูดถึง Derma Glow ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วยการฉีดช...

 
 
 

ความคิดเห็น


ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

0626023959

bottom of page