top of page
ค้นหา

เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)เหมาะกับใคร

Derma Glow: นวัตกรรม Skin Booster เพื่อผิวสวยสมบูรณ์แบบ ✨

💎 Derma Glow คืออะไร?

Derma Glow เป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าระดับพรีเมียมที่ใช้เทคโนโลยี Skin Booster อันล้ำสมัย 🔬 โดยเป็นการฉีดสารบำรุงที่มีความเข้มข้นสูงเข้าสู่ชั้น dermis ของผิวหนังโดยตรง (Intradermal Injection) 💉 ซึ่งช่วยส่งมอบสารอาหาร ไฮยาลูรอนิกแอซิด และส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ ไปยังชั้นผิวที่ลึกกว่าการใช้ครีมบำรุงทั่วไปที่ซึมซาบเพียงชั้น epidermis เท่านั้น 🧴 ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างล้ำลึกและเห็นผลชัดเจนในเวลาอันสั้น 🌿

👩‍⚕️ Derma Glow เหมาะกับใคร?

โปรแกรม Derma Glow เหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหาผิวดังต่อไปนี้ หรือผู้ที่ต้องการยกระดับสภาพผิวให้ดีขึ้น:

ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น 💧 - ผิวที่ขาดน้ำ มีความแห้งตึง หรือลอกเป็นขุย

ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก 🕸️ - ริ้วรอยรอบดวงตา รอยยับย่นบนหน้าผาก หรือร่องแก้มที่เห็นชัด

ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ขาดความกระจ่างใส 🌫️ - ผิวที่ดูไม่สดใส มีจุดด่างดำ ฝ้า กระ หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง 🔍 - รูขุมขนที่ขยายใหญ่ ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน

ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ 🌸 - ผิวที่เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ไม่กระชับเหมือนเดิม

ผู้ที่มีผิวเสียจากมลภาวะและแสงแดด ☀️ - ผิวที่ถูกทำลายจากรังสี UV ควัน หรือมลภาวะในชีวิตประจำวัน

ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป 📅 - เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณแห่งวัยหรือต้องการป้องกันริ้วรอยก่อนวัย

ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน ⚡ - เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลารอผลลัพธ์จากครีมบำรุงทั่วไป

ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือต้องการการดูแลแบบพิเศษ 🛡️ - เนื่องจากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัย

ผู้ที่ต้องการผิวโกลว์ใสแบบธรรมชาติ 💫 - เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวที่ดูสุขภาพดี เปล่งปลั่งจากภายใน

🌟 Derma Glow ช่วยในเรื่องอะไร?

1. เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก 💧

Derma Glow ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในระดับเซลล์ด้วยไฮยาลูรอนิกแอซิดที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานถึง 6-8 เดือน ต่างจากครีมบำรุงทั่วไปที่ให้ความชุ่มชื้นเพียงชั่วคราว 12-48 ชั่วโมงเท่านั้น

2. ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก 🕸️

ด้วยส่วนผสมของวิตามิน เปปไทด์ และอะมิโนแอซิดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ร่องลึกจางลง และผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามารถลดริ้วรอยได้ถึง 60-80% ภายใน 2-4 สัปดาห์

3. เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหน้า ✨

มีส่วนผสมของวิตามินซีเสถียรและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยหมองคล้ำ ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นถึง 50-70% ภายในระยะเวลาอันสั้น

4. กระชับรูขุมขนและผิวที่หย่อนคล้อย 🌸

เทคโนโลยีการฉีดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้รูขุมขนเล็กลง 40-50% และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเรียวกระชับและอ่อนเยาว์

5. ฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากมลภาวะและแสงแดด ☀️

Derma Glow อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายจากรังสี UV และมลภาวะ ฟื้นฟูผิวได้ถึง 80% พร้อมสร้างเกราะป้องกันผิวจากความเสียหายในอนาคต

6. เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) 🛡️

ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ชั้นผิวหนังกำพร้า (Stratum Corneum) ซึ่งเป็นด่านแรกในการปกป้องผิว ลดการสูญเสียน้ำผ่านผิว (TEWL) และป้องกันการระคายเคืองจากมลภาวะหรือสารก่อภูมิแพ้ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

7. ปรับสมดุลความมันบนผิวหน้า 🍃

ควบคุมการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดความมันส่วนเกิน แต่ยังคงความชุ่มชื้นที่จำเป็น ทำให้ผิวไม่มันเยิ้มและไม่แห้งตึง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวมันและผิวผสม

8. กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและฟื้นฟูเซลล์ใหม่ 🧬

เร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว (Cell Turnover) ให้เร็วขึ้น 2-3 เท่า ทำให้เซลล์ผิวเก่าหลุดลอกและถูกแทนที่ด้วยเซลล์ผิวใหม่ที่สดใสกว่า ส่งผลให้ผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดี และดูอ่อนเยาว์

9. ลดการอักเสบและรอยแดงจากสิว 🌡️

ด้วยส่วนผสมที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดรอยแดงและการระคายเคืองจากสิวหรือผิวแพ้ง่าย ทำให้ผิวสงบและเรียบเนียนขึ้น

10. เพิ่มความเปล่งปลั่งแบบธรรมชาติ 💫

ผิวจะดูโกลว์ใส เปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก ด้วยการบำรุงที่ล้ำลึกและการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดใต้ผิว ทำให้ผิวมีเลือดฝาดและดูมีชีวิตชีวา

🔬 ส่วนผสมหลักที่ทรงประสิทธิภาพใน Derma Glow

Derma Glow ประกอบด้วยส่วนผสมที่ได้รับการวิจัยและคัดสรรมาอย่างดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด:

ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ความเข้มข้นสูง 💧 - โมเลกุลขนาดเล็กที่ซึมลึกถึงชั้น dermis เติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างยาวนาน

วิตามินซีเสถียร (Stable Vitamin C) 🍊 - ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดการสร้างเมลานิน

นิโคตินาไมด์ (Niacinamide) 5-10% 🌟 - ลดรอยดำ กระชับรูขุมขน และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว

เปปไทด์เชิงซ้อน (Complex Peptides) 🧬 - กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว

สารสกัดจากสาหร่ายทะเลลึก (Deep Sea Algae Extract) 🌊 - อุดมด้วยแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหาย

กรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acids) 🌿 - เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างโปรตีนและเอนไซม์ของผิว

กลูตาไธโอน (Glutathione) ✨ - สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ

วิตามินบีคอมเพล็กซ์ (Vitamin B Complex) 🍃 - ฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดการอักเสบ และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว

โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ⚡ - ช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์ผิว ต้านอนุมูลอิสระ และชะลอวัย

สารสกัดจากพืชธรรมชาติ (Botanical Extracts) 🌻 - ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง และเพิ่มความชุ่มชื้น

💉 ขั้นตอนการทำ Derma Glow

การปรึกษาแพทย์ 🩺 - แพทย์ผิวหนังจะประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การทำความสะอาดผิวหน้า 🧼 - ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกและฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

การทายาชา 🧊 - ทายาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด

การฉีด Skin Booster 💉 - แพทย์ใช้เข็มขนาดเล็กพิเศษ (Micro-Needle) ฉีดสารบำรุงเข้าสู่ชั้น dermis ด้วยเทคนิคที่แม่นยำ

การนวดกระจายสาร 👐 - นวดเบาๆ เพื่อให้สารบำรุงกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วใบหน้า

การปลอบประโลมผิว ❄️ - อาจใช้มาส์กเย็นหรือครีมปลอบประโลมผิวเพื่อลดรอยแดงหลังการทำ

คำแนะนำหลังการรักษา 📋 - แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผิวหลังทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

⏱️ ระยะเวลาและผลลัพธ์

ระยะเวลาการทำ ⏳ - ใช้เวลาเพียง 30-60 นาทีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและสภาพผิว

ผลลัพธ์ทันที ⚡ - ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และดูสดใสขึ้นทันทีหลังทำ

ผลลัพธ์ระยะสั้น (7-14 วัน) 🌱 - ริ้วรอยตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น

ผลลัพธ์ระยะยาว (1-2 เดือน) 🌺 - คอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น ริ้วรอยลึกจางลง

ความยาวนานของผลลัพธ์ 📅 - ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ

📋 แผนการรักษาที่แนะนำ

สำหรับผู้เริ่มต้น 🌱 - ทำ 3 ครั้ง โดยห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

สำหรับการบำรุงต่อเนื่อง 🌿 - ทำ 1-2 ครั้งต่อปี เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนาน

สำหรับปัญหาผิวรุนแรง 🔍 - ทำ 4-6 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2 สัปดาห์ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวอย่างล้ำลึก

🛑 ข้อควรระวังและข้อห้าม

Derma Glow อาจไม่เหมาะกับบุคคลดังต่อไปนี้:

ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร 🤰

ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้รุนแรงหรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง 🩺

ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือแผลเปิดบริเวณที่จะทำ 🔴

ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์หรือแผลเป็นนูน 🧬

ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์หรือทรีทเมนต์ที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อผิวภายใน 2 สัปดาห์ 🔆

ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคเลือด 🩸

หมายเหตุ: ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทำเพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัย

💆‍♀️ การดูแลผิวหลังทำ Derma Glow

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขัดถูผิวหน้าแรงๆ เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง 👐

งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด (AHA, BHA, Retinol) เป็นเวลา 3-5 วัน 🧴

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือการสัมผัสความร้อน เช่น ซาวน่า เป็นเวลา 48 ชั่วโมง 🏃‍♀️

ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน แม้จะอยู่ในร่ม ☀️

ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน 💧

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิกแอซิดเพื่อเสริมผลลัพธ์ 🌊

หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ในช่วง 3-5 วันหลังทำ 🚭

💰 ความคุ้มค่าในระยะยาว

แม้ว่าการทำ Derma Glow จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้ครีมบำรุงทั่วไปในระยะสั้น แต่เมื่อพิจารณาถึงผลลัพธ์และประสิทธิภาพ จะพบว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า:

ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว 💰 - ลดการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิดที่อาจไม่ได้ผล

ประหยัดเวลา ⏰ - ลดขั้นตอนการดูแลผิวที่ยุ่งยาก เพราะผิวมีสุขภาพดีขึ้นจากภายใน

ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ⚡ - เห็นผลทันทีและยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับครีมบำรุงทั่วไป

แก้ไขปัญหาผิวได้ตรงจุด 🎯 - แก้ปัญหาผิวอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์


📅 จำนวนครั้งน้อยกว่า: คอร์สการรักษามักใช้เพียง 3 ครั้ง ในขณะที่ Mesotherapy อาจต้องทำ 4-6 ครั้ง

🌿 ความเสี่ยงจากการแพ้น้อยกว่า: เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้ HA ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตได้เอง โอกาสแพ้จึงน้อยกว่าค็อกเทลวิตามินที่มีส่วนผสมหลากหลาย

🧬 กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่า: HA ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดีกว่าในระยะยาว

🔷 ข้อดีของ Derma Glow เมื่อเทียบกับ Mesofat:

🧖‍♀️ ระยะพักฟื้นสั้นกว่า: มีอาการบวมแดงน้อยกว่าและหายเร็วกว่า Mesofat

😌 ความเจ็บปวดน้อยกว่า: เนื่องจากฉีดตื้นกว่าและไม่รู้สึกแสบเหมือนสารสลายไขมัน

🌱 ไม่ทำลายเซลล์: เป็นการเติมสารให้ผิว ไม่ใช่การทำลายเซลล์ไขมัน จึงไม่มีความเสี่ยงเรื่องผิวไม่เรียบ

💆‍♀️ เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวโดยรวม: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเปล่งปลั่ง ซึ่ง Mesofat ไม่มีผลในด้านนี้

🛡️ ความเสี่ยงต่ำกว่า: ไม่มีความเสี่ยงจากการบวมมากหรือการอักเสบจากสารสลายไขมัน

🔷 ข้อดีของ Derma Glow เมื่อเทียบกับ Botox:

💧 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว: Derma Glow ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเปล่งปลั่ง

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
เดอร์มาโกลว์(DERMA GLOW)อันตรายไหม

Derma Glow: โปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วย Skin Booster 💉✨ สวัสดีค่ะ! วันนี้เราจะมาพูดถึง Derma Glow ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลผิวหน้าด้วยการฉีดช...

 
 
 

ความคิดเห็น


ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

ตลาดทาวน่ามาเก็ต 24/140 ม.9 ถ.สุขุมวิทพัทยา53 ซ.เนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี20150

0626023959

bottom of page